ทำความเข้าใจกับขั้นตอนการขอ อย. เบเกอรี่ สำหรับมือใหม่

การทำธุรกิจเบเกอรี่ในยุคปัจจุบันไม่ใช่เพียงเรื่องของรสชาติหรือหน้าตาขนมเท่านั้น แต่ “ความปลอดภัย” และ “มาตรฐานการผลิต” ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และหนึ่งในขั้นตอนที่ขาดไม่ได้คือ การขอ อย. เบเกอรี่ ซึ่งเป็นใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่รับรองว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด บทความนี้จะพาคุณเข้าใจทุกขั้นตอนของการขอ อย. เบเกอรี่ ตั้งแต่การเตรียมสถานที่ การจัดเตรียมเอกสาร ไปจนถึงกระบวนการตรวจสอบจริง เพื่อให้ผู้ประกอบการมือใหม่สามารถดำเนินการได้อย่างมั่นใจและถูกต้องตามระเบียบ 

ทำไมการขอ อย. เบเกอรี่จึงจำเป็นมาก?

หลายคนอาจสงสัยว่า เบเกอรี่เป็นเพียงขนมอบธรรมดา จำเป็นต้องมีการขอ อย. ด้วยหรือ คำตอบคือ จำเป็นในหลายกรณี โดยเฉพาะหากต้องการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เช่น วางขายในร้านสะดวกซื้อ ส่งเข้าห้างสรรพสินค้า หรือจำหน่ายออนไลน์ในวงกว้าง การขอ อย. เบเกอรี่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่าขนมของคุณปลอดภัยและผ่านการรับรอง นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพราะสามารถนำสินค้าไปจำหน่ายในร้านค้าใหญ่หรือส่งออกได้ ป้องกันปัญหาทางกฎหมาย เนื่องจากการจำหน่ายอาหารโดยไม่มีใบอนุญาตอาจถูกปรับหรือถูกระงับการขาย และยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูเป็นมืออาชีพและมีมาตรฐาน ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจและธุรกิจสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

เบเกอรี่ประเภทใดบ้างที่ต้องขอ อย.?

ก่อนเริ่มกระบวนการ การขอ อย. เบเกอรี่ สิ่งแรกที่ควรเข้าใจคือ ไม่ใช่เบเกอรี่ทุกประเภทจะต้องขอ อย. เสมอไป แต่อาหารที่ “ผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์” จะอยู่ในขอบเขตที่ต้องยื่นขอ โดยแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก

1. เบเกอรี่ที่ต้องขออนุญาตแบบอาหารควบคุมเฉพาะ

เช่น

  • เค้กอบพร้อมบรรจุ
  • คุกกี้หรือบิสกิต
  • ขนมปังบรรจุซอง
  • พายและทาร์ตสำเร็จรูป

 

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องขอเลข อย. แบบเต็มรูปแบบ (เลข 13 หลัก)

2. เบเกอรี่ที่ขายในร้านโดยไม่บรรจุภัณฑ์

เช่น เค้กโฮมเมด ขนมอบสดที่ขายหน้าร้านโดยตรง ส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องขอ อย. แต่ต้องมีการขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตกับหน่วยงานสาธารณสุขในท้องที่ และปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาล ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอ อย .ขนมโฮมเมดแต่ละแบบ เพื่อความถูกต้องและชัดเจน

3. เบเกอรี่ที่ผลิตแบบ OEM

หากคุณไม่ได้มีโรงงานเอง แต่ให้โรงงานอื่นผลิต ต้องตรวจสอบว่าโรงงานนั้นมีใบอนุญาต อย. ถูกต้อง เพื่อให้สามารถใช้ชื่อแบรนด์ของคุณได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เตรียมตัวก่อนขอ อย. เบเกอรี่

การเตรียมความพร้อมคือหัวใจสำคัญ เพราะหากเอกสารหรือสถานที่ไม่ครบถ้วน อาจทำให้การยื่นขอล่าช้าได้ ดังนั้นก่อนเริ่มยื่นคำขอ ควรตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

1. สถานที่ผลิต

สถานที่ผลิตเป็นหัวใจสำคัญในการขอ อย. เบเกอรี่ ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ และจัดพื้นที่ชัดเจน เช่น โซนผลิต โซนเก็บวัตถุดิบ และโซนเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป พื้น ผนัง และเพดานควรทำความสะอาดง่าย มีระบบระบายอากาศและแสงสว่างเพียงพอ รวมถึงต้องปราศจากสัตว์หรือแมลงรบกวน ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้การตรวจสถานที่ของเจ้าหน้าที่ อย. ผ่านได้อย่างราบรื่น

2. อุปกรณ์และเครื่องมือ

อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตควรทำจากวัสดุที่ไม่เป็นสนิม เช่น สแตนเลส เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ควรแยกอุปกรณ์สำหรับวัตถุดิบดิบและวัตถุดิบสุกอย่างชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อน นอกจากนี้ควรมีระบบล้างมือที่สะอาดและใช้งานได้จริง การจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างเหมาะสมจะช่วยให้กระบวนการ การขออย. เบเกอรี่ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและลดปัญหาการถูกตีกลับเอกสาร

3. บุคลากร

บุคลากรที่ทำงานในกระบวนการผลิตเบเกอรี่ควรผ่านการอบรมหลักสุขาภิบาลอาหาร เพื่อให้มีความรู้เรื่องความสะอาดและมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร ผู้ปฏิบัติงานต้องมีสุขภาพแข็งแรงและไม่เป็นโรคติดต่อที่กฎหมายกำหนดห้ามทำงานในสถานประกอบการอาหาร เช่น โรคบิด ไทฟอยด์ หรือวัณโรค การคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมช่วยให้การผลิตเป็นไปอย่างปลอดภัยและเพิ่มโอกาสให้การขอ อย. ผ่านการตรวจสอบครั้งแรก

4. เอกสารประกอบ

การเตรียมเอกสารเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการยื่นขอ อย. เบเกอรี่ เอกสารที่จำเป็นได้แก่ แบบฟอร์มคำขอขึ้นทะเบียนอาหาร สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือรับรองบริษัท แผนผังสถานที่ผลิต รายละเอียดกระบวนการผลิตและส่วนประกอบ ตัวอย่างฉลากสินค้า และรายงานผลการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ (ถ้ามี) การจัดเตรียมเอกสารครบถ้วนและถูกต้องช่วยให้ขั้นตอนการพิจารณาเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงการถูกตีกลับเอกสาร

ขั้นตอนการขอ อย. เบเกอรี่แบบละเอียด

ขั้นตอนที่ 1: ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน

ผู้ประกอบการสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านระบบออนไลน์ อย. e-Submission ที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือยื่นเอกสารด้วยตนเองที่สำนักงาน อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับชื่อผลิตภัณฑ์ ประเภทอาหาร ส่วนประกอบหลัก วิธีการผลิต และแนบฉลากเบื้องต้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบสถานที่ผลิต

เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจพื้นที่จริงเพื่อประเมินความสะอาด ความปลอดภัย และความพร้อมของกระบวนการผลิต โดยพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบ การจัดการวัตถุดิบ การควบคุมอุณหภูมิ และระบบป้องกันการปนเปื้อน หากสถานที่ผ่านมาตรฐาน จะได้รับใบอนุญาตสถานที่ผลิตอาหาร ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์

ตัวอย่างเบเกอรี่จะถูกส่งไปตรวจสอบคุณภาพ เช่น ความชื้น ปริมาณไขมัน ปลอดสารกันบูดหรือเชื้อจุลินทรีย์อันตราย เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค การตรวจวิเคราะห์นี้ช่วยสร้างความมั่นใจทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า

ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบฉลากอาหาร

เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการอนุมัติเร็วขึ้น ฉลากต้องระบุข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ เลขสารบบอาหาร (เมื่อได้รับอนุญาต) รายการส่วนประกอบ วันผลิต/วันหมดอายุ น้ำหนักสุทธิ ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย และข้อมูลโภชนาการ (ถ้ามี) การเตรียมฉลากอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นจะลดความล่าช้าในการตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 5: การอนุมัติและออกเลข อย.

หลังผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่จะออกเลขสารบบอาหาร 13 หลักให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถนำไปติดบนฉลากและเริ่มจำหน่ายได้ทันที

สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่หรือผู้ที่ไม่สะดวกดำเนินการเอง สามารถใช้บริการจาก บริษัทรับจด อย.   เบเกอรี่ ซึ่งจะช่วยดำเนินงานตั้งแต่การเตรียมเอกสาร ยื่นคำขอ ตรวจสอบฉลาก และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ อย. ทำให้ลดความผิดพลาดและประหยัดเวลา ทั้งยังมั่นใจได้ว่ากระบวนการทั้งหมดถูกต้องตามกฎหมาย

ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

โดยทั่วไป การขอ อย. เบเกอรี่ ใช้เวลาประมาณ 30–60 วันทำการ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสารและความถูกต้องของข้อมูล ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ

  • ค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์: ประมาณ 1,000–2,000 บาท
  • ค่าตรวจสถานที่: ขึ้นอยู่กับจังหวัด

  • ค่าตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์: ประมาณ 1,000–3,000 บาท

หากใช้บริการที่ปรึกษาหรือบริษัทรับจด อย. ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น แต่จะช่วยประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในการยื่นเอกสาร

เคล็ดลับการขอ อย. เบเกอรี่ให้ผ่านได้ในครั้งเดียว

เคล็ดลับในการขอ อย. สำหรับเบเกอรี่ให้ผ่านได้ตั้งแต่ครั้งแรกคือ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อผลิตภัณฑ์และส่วนประกอบตรงกันทุกหน้า นอกจากนี้ควรจัดสถานที่ผลิตให้เป็นระเบียบ แยกโซนการผลิตและโซนเก็บวัตถุดิบอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ การศึกษาข้อกำหนดของ อย. ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องการเขียนฉลาก จะช่วยลดความผิดพลาด ใช้สูตรและวัตถุดิบที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงสารกันบูดหรือสีสังเคราะห์ที่ไม่ได้รับอนุญาต และซักซ้อมการตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า เพื่อให้การตรวจสถานที่เป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มโอกาสผ่านการอนุมัติในครั้งเดียว 

การขอ อย. เบเกอรี่ คือการลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจ

ในโลกของธุรกิจอาหาร ความอร่อยอาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจลูกค้าในระยะสั้น แต่ “มาตรฐาน” และ “ความปลอดภัย” คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์อยู่ได้ในระยะยาว การขอ อย. เบเกอรี่ จึงไม่ใช่ภาระหรือขั้นตอนยุ่งยาก แต่เป็น การลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ

หากคุณเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ที่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บริษัท FDA STORY พร้อมเป็นผู้ช่วยมืออาชีพในทุกขั้นตอนของการขอ อย. เบเกอรี่ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา เตรียมเอกสาร ตรวจสอบฉลาก ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ไปจนถึงการติดตามผลการอนุมัติ ช่วยลดความยุ่งยาก ประหยัดเวลา และทำให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าจะผ่านการตรวจสอบอย่างราบรื่น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขอ อย. เบเกอรี่

หากคุณผลิตเบเกอรี่ในปริมาณน้อยและจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์โดยไม่บรรจุภัณฑ์จำนวนมาก อาจไม่จำเป็นต้องขอ อย. แต่ต้องขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตกับเทศบาลหรือเขตท้องที่เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย การทำเช่นนี้ช่วยให้สามารถขายสินค้าได้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการควบคุมคุณภาพ

สามารถใช้บริการโรงงาน OEM ผลิตเบเกอรี่แทนได้ โดยโรงงานนั้นต้องมีใบอนุญาตผลิตอาหาร (อย. 3) และมีเลข อย. ของสถานที่ผลิตที่ถูกต้อง คุณสามารถยื่นขอเลข อย. ในนามแบรนด์ของตนเองได้ การใช้โรงงาน OEM ช่วยลดต้นทุนด้านอุปกรณ์และสถานที่ผลิต พร้อมทั้งมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและถูกต้องตามมาตรฐาน อย.

เบเกอรี่แช่แข็งและอบสดไม่จำเป็นต้องขอเลข อย. แบบเดียวกัน เบเกอรี่แช่แข็งจัดเป็นอาหารควบคุมเฉพาะ จึงต้องขอเลข อย. แบบเต็มรูปแบบ ส่วนเบเกอรี่อบสดที่จำหน่ายหน้าร้านหรือในปริมาณไม่มากอาจอยู่ภายใต้การควบคุมของเทศบาลเท่านั้น การแยกประเภทช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจขั้นตอนการขอ อย. และปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้อง

ไม่จำเป็นต้องมีนักโภชนาการประจำสถานที่ผลิต แต่ต้องมีผู้รับผิดชอบด้านการผลิตที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอาหาร หรือผ่านการอบรม GMP เบื้องต้น บุคคลนี้จะช่วยดูแลการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงการปนเปื้อน และทำให้กระบวนการยื่นขอ อย. ผ่านการตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

หากมีการเปลี่ยนสูตรส่วนประกอบหลัก หรือปรับกระบวนการผลิต จำเป็นต้องยื่นขอขึ้นทะเบียนใหม่เพื่อให้เลข อย. สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ ส่วนการเปลี่ยนเฉพาะบรรจุภัณฑ์ เช่น ขนาดหรือดีไซน์ สามารถแจ้งแก้ไขข้อมูลกับ อย. ได้โดยไม่ต้องยื่นขอใหม่ทั้งหมด การปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ช่วยให้สินค้าของคุณถูกต้องและปลอดภัยต่อผู้บริโภค

บทความอื่น ๆ

  • All Post
  • ไม่มีหมวดหมู่
ตรวจเช็คเลข อย. ให้ถูกต้อง และปลอดภัยยังไง?
17/09/2025

การเช็คเลข อย. ก่อนซื้อสินค้าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยป้องกันการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง และทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้าที่เลือกซื้อปลอดภัยต่อสุขภาพ

บริษัท เอฟดีเอ สตอรี่ จำกัด
ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข
มาเป็นเวลา 5 ปีทางเรามีความชำนาญในเรื่องขอ อย.

ติดต่อเรา

© 2022 by ขออย.com. All right reserved.